- ไม่คบคนพาล ข้อ1-18 เริ่มสร้างชีวิต
- คบบัณฑิต
- บูชาคนควรบูชา
- อยู่ในปฏิรูปเทศ
- มีบุญวาสนา
- ตั้งตัวถูกทาง
- คงแก่เรียน
- มีศิลปะ
- มีวินัยดี
- ใช้วาจาสุภาษิต
- เลี้ยงดูบิดามารดา
- เลี้ยงดูบุตร
- เลี้ยงดูภรรยา
- ทำงานไม่ให้คั่งค้าง
- บำเพ็ญทาน
- ประพฤติธรรม
- สงเคราะห์ญาติ
- ทำงานไม่มีโทษ
- งดเว้นบาปกรรม ข้อ19-30 ปรุงจิตโดยตรง
- สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
- ไม่ประมาท
- มีสัมมาคารวะ
- มีความถ่อมตัว
- มีความสันโดษ
- มีความกตัญญู
- ฟังธรรมตามการอันควร
- อดทน
- ว่าง่ายสอนง่าย
- พบปะสมณะ
- สนทนาธรรม
- บำเพ็ญตบะ ข้อ31-38 มุ่งตรงนิพพาน
- ประพฤติพรหมจรรย์
- เห็นอริยสัจ
- ทำให้แจ้งนิพพาน
- จิตไม่หวั่นไหว
- จิตไม่โลภ
- จิตไม่กำหนัด
- จิตหลุดพ้น(เกษม)
"ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์ เฉลิมพระเกียรติ" หมู่8 ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม 0814926758
ทำเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อบรรลุเศรษฐกิจพอเพียง
ก่อนจะมาเป็นสวนนี้แต่เดิมถูกทิ้งไว้หลายปีเพราะเจ้าของที่ดินเดิมย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น เราได้ซื้อที่ดินนี้มาเป็นที่ดอน ป่ารก และต้นซาด เดินเข้าไปมีแต่พงหนามเล็บแมวและเถาวัลย์...ตาบุญเลี่ยมกับยายมะลิ...คนแก่อายุ 60ปี ช่วยกันถางด้วย มีดโต้ จอบ เสียม ไม่จ้างรถแทรกเตอร์เลย ด้วยเหตุผลว่าเสียดายไม้ ถางป่าด้วยความหวัง ถางป่าด้วยความสุข ถางป่าไปร้องเพลงไป พอมีที่ว่างก็ค่อยๆปลูกพืชผักที่กินได้ เข่นแตงโม ข้าวโพด ส่วนต้นไม้ใหญ่รักษาไว้ให้คงสภาพป่าเหมือนเดิม ถางป่าเป็นเวลา 2 ปี แล้วจึงน้อมนำพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ มาปฏิบัติจนกลายเป็นสวนเกษตรผสมผสาน ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชสวนครัว ไม้ผล เลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันได้รับการคัดเลือกเป็น"ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์ เฉลิมพระเกียรติ"หมู่8 ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม
Thursday, December 29, 2011
ของขวัญปีใหม่ ขอให้มีความสุข สุขภาพดี มีทรัพย์อุดม
สวัสดีปีใหม่ ท่านผู้อ่านที่รัก เรามีของขวัญมาฝาก เป็นมงคลชีวิต
Tuesday, December 6, 2011
การเลี้ยงปลานิล 4(การปล่อยปลาลงเลี้ยง)
การปล่อยปลานิลลงเลี้ยง
ก.จำนวนปลาที่ปล่อย สำหรับบ่อขนาดเนื้อที่ 1 งาน(400ตารางเมตร) ควรใช้พ่อแม่พันธุ์ปลานิลเพียง 50 คู่ ถ้าเป็นลูกปลาขนาดเล็กก็ควรปล่อยเพียง 400 ตัว หรือ 1 ตัวต่อ 1 ตารางเมตร
ข.เวลาปล่อยปลา เวลาที่เหมาะควรเป็นเช้าหรือเย็น เพราะอุณหภูมิของน้ำไม่ร้อนเกินไป ก่อนปล่อยปลาควรเอาน้ำในบ่อใส่ลงไปในภาชนะที่บรรจุปลาแล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาทีเพื่อให้ปลาคุ้นกับน้ำใหม่เสียก่อนแล้วจึงค่อยๆตะแคงภาชนะ ปล่อยให้ปลาว่ายออกไปอย่างช้าๆ
การเจริญเติบโต ปลานิลโตเร็ว เลี้ยง 1 ปี จะมีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม(ครึ่งกิโลกรัม) หากมีปลาในบ่อมากควรจับไปปล่อยในบ่ออื่นบ้าง ถ้าปลาแน่นบ่อจะไม่โตและลดอัตราการแพร่พันธุ์อีกด้วย
ก.จำนวนปลาที่ปล่อย สำหรับบ่อขนาดเนื้อที่ 1 งาน(400ตารางเมตร) ควรใช้พ่อแม่พันธุ์ปลานิลเพียง 50 คู่ ถ้าเป็นลูกปลาขนาดเล็กก็ควรปล่อยเพียง 400 ตัว หรือ 1 ตัวต่อ 1 ตารางเมตร
ข.เวลาปล่อยปลา เวลาที่เหมาะควรเป็นเช้าหรือเย็น เพราะอุณหภูมิของน้ำไม่ร้อนเกินไป ก่อนปล่อยปลาควรเอาน้ำในบ่อใส่ลงไปในภาชนะที่บรรจุปลาแล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาทีเพื่อให้ปลาคุ้นกับน้ำใหม่เสียก่อนแล้วจึงค่อยๆตะแคงภาชนะ ปล่อยให้ปลาว่ายออกไปอย่างช้าๆ
การเจริญเติบโต ปลานิลโตเร็ว เลี้ยง 1 ปี จะมีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม(ครึ่งกิโลกรัม) หากมีปลาในบ่อมากควรจับไปปล่อยในบ่ออื่นบ้าง ถ้าปลาแน่นบ่อจะไม่โตและลดอัตราการแพร่พันธุ์อีกด้วย
การเลี้ยงปลานิล 3
การเตรียมบ่อและวิธีเลี้ยง
1.บ่อ ควรเป็นบ่อดิน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดตั้งแต่ 400 ตารางเมตรขึ้นไป ระดับน้ำ ควรลึกประมาณ 1 เมตรตลอดปี เพื่อให้ปลาเติบโตและเพาะพันธุ์พร้อมกันไปด้วย
2.การเตรียมบ่อ ก.บ่อใหม่ ดินมักมีคุณภาพเป็นกรด ควรใช้ปูนขาวโรยให้ทั่วบ่อในอัตรา 1 กก.ต่อเนื้อที่ 10 ตารางเมตร
ข.บ่อเก่า ควรกำจัดวัชพืชออกให้หมด เช่นผักตบชวา จอก แหน หญ้าต่างๆ เพราะวัชชพืชเหล่านี้จะปกคลุมผิวน้ำเป็นอุปสรรคต่อการหมุนเวียนของอากาศ และเป็นที่อยู่อาศัยของศัตรูที่เป็นอันตรายต่อปลา
ค.การใส่ปุ๋ย ใช้มูลวัว มูลควาย มูลหมู มูลเป็ด มูลไก่ ตากแห้งเสียก่อนจึงใส่ ระยะแรกควรใส่ 250-300 กก.ต่อไร่ ในระยะหลังๆควรใส่ครึ่งหนึ่งของระยะแรก การใส่ควรโรยทั่วๆบ่อไม่ควรโยนลงในที่เดียว หากเป็นปุ๋ยพืชสดควรเทสุมกองไว้ 1-2 แห่งตามมุมบ่อ และใช้ไม้ปักล้อมไว้ไม่ให้กระจาย บ่อที่มีสีเขียวแสดงว่ามีพืชเล็กๆอยู่มาก หากบ่อเป็นสีคล้ำมักมีอาหารพวกไรน้ำมาก พวกพืชและไรน้ำนับว่าเป็นอาหารธรรมชาติมีประโยชน์ต่อปลาเป็นอย่างดี
1.บ่อ ควรเป็นบ่อดิน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดตั้งแต่ 400 ตารางเมตรขึ้นไป ระดับน้ำ ควรลึกประมาณ 1 เมตรตลอดปี เพื่อให้ปลาเติบโตและเพาะพันธุ์พร้อมกันไปด้วย
2.การเตรียมบ่อ ก.บ่อใหม่ ดินมักมีคุณภาพเป็นกรด ควรใช้ปูนขาวโรยให้ทั่วบ่อในอัตรา 1 กก.ต่อเนื้อที่ 10 ตารางเมตร
ข.บ่อเก่า ควรกำจัดวัชพืชออกให้หมด เช่นผักตบชวา จอก แหน หญ้าต่างๆ เพราะวัชชพืชเหล่านี้จะปกคลุมผิวน้ำเป็นอุปสรรคต่อการหมุนเวียนของอากาศ และเป็นที่อยู่อาศัยของศัตรูที่เป็นอันตรายต่อปลา
ค.การใส่ปุ๋ย ใช้มูลวัว มูลควาย มูลหมู มูลเป็ด มูลไก่ ตากแห้งเสียก่อนจึงใส่ ระยะแรกควรใส่ 250-300 กก.ต่อไร่ ในระยะหลังๆควรใส่ครึ่งหนึ่งของระยะแรก การใส่ควรโรยทั่วๆบ่อไม่ควรโยนลงในที่เดียว หากเป็นปุ๋ยพืชสดควรเทสุมกองไว้ 1-2 แห่งตามมุมบ่อ และใช้ไม้ปักล้อมไว้ไม่ให้กระจาย บ่อที่มีสีเขียวแสดงว่ามีพืชเล็กๆอยู่มาก หากบ่อเป็นสีคล้ำมักมีอาหารพวกไรน้ำมาก พวกพืชและไรน้ำนับว่าเป็นอาหารธรรมชาติมีประโยชน์ต่อปลาเป็นอย่างดี
การเลี้ยงปลานิล 2
รูปร่างลักษณะและนิสัย
ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูล Cichlidae มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทวีปอาฟริกา พบทั่วไปตามหนองบึงและทะเลสาบในประเทศ ซูดาน อูกานดา แทนแกนยิกา ปลานิลมีรูปร่างคล้ายปลาหมอเทศมีนิสัยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงตามแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง และทะเลสาบ เป็นปลาที่อยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีความอดทน และสามารถปรับปรุงตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย เหมาะสมที่จะนำมาเพาะเลี้ยงในบ่อได้เป็นอย่างดี
การแพร่ขยายพันธุ์
เมื่อปลามีอายุประมาณ 4 เดือน จะเริ่มสืบพันธุ์โดยตัวผู้สร้างรังบริเวณชานบ่อ ระดับน้ำลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร ตัวผู้จะใช้ปากขุดดินให้เป็นแอ่ง เมื่อผสมพันธุ์แล้ว ปลาตัวเมียจะอมไข่ไว้ในปาก 4-5 วันจะฟักเป็นตัว หลังจากเป็นตัวแล้ว 3-4 วันแม่ปลาจะคายลูกออกมา ลูกปลาเริ่มหาอาหารกินเองได้ ลูกปลาจะว่ายเข้าออกในปากแม่ปลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงเลิกหลบเข้าอาศัยในปากแม่ปลา ลูกปลาจะหาอาหารได้อย่างดีเมื่ออายุ 3 สัปดาห์ ในเวลา 1 ปีแม่ปลาจะแพร่พันธุ์ได้ประมาณ 3-4 ครั้ง
ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูล Cichlidae มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทวีปอาฟริกา พบทั่วไปตามหนองบึงและทะเลสาบในประเทศ ซูดาน อูกานดา แทนแกนยิกา ปลานิลมีรูปร่างคล้ายปลาหมอเทศมีนิสัยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงตามแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง และทะเลสาบ เป็นปลาที่อยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีความอดทน และสามารถปรับปรุงตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย เหมาะสมที่จะนำมาเพาะเลี้ยงในบ่อได้เป็นอย่างดี
การแพร่ขยายพันธุ์
เมื่อปลามีอายุประมาณ 4 เดือน จะเริ่มสืบพันธุ์โดยตัวผู้สร้างรังบริเวณชานบ่อ ระดับน้ำลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร ตัวผู้จะใช้ปากขุดดินให้เป็นแอ่ง เมื่อผสมพันธุ์แล้ว ปลาตัวเมียจะอมไข่ไว้ในปาก 4-5 วันจะฟักเป็นตัว หลังจากเป็นตัวแล้ว 3-4 วันแม่ปลาจะคายลูกออกมา ลูกปลาเริ่มหาอาหารกินเองได้ ลูกปลาจะว่ายเข้าออกในปากแม่ปลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงเลิกหลบเข้าอาศัยในปากแม่ปลา ลูกปลาจะหาอาหารได้อย่างดีเมื่ออายุ 3 สัปดาห์ ในเวลา 1 ปีแม่ปลาจะแพร่พันธุ์ได้ประมาณ 3-4 ครั้ง
การเลี้ยงปลานิล 1 (ความเป็นมา)
ปลานิล
ความเป็นมา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2508 พระจักรพรรดิอากิฮิโต เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฏราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นทรงจัดส่งปลานิลจำนวน 50 ตัวความยาวเฉลี่ย 9 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 14 กรัม มาทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ระยะแรกได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ปล่อยลงในบ่อดิน เนื้อที่ประมาณ 10 ตารางเมตร บริเวณสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อเลี้ยงมาได้ 5 เดือนเศษ ปรากฏว่ามีลูกปลาเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สวนหลวงขุดบ่อขึ้นใหม่อีก 6 บ่อมีเนื้อที่เฉลี่ยบ่อละประมาณ 70 ตารางเมตร ซึ่งในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงย้ายปลาด้วยพระองค์เอง โดยย้ายจากบ่อเดิมไปปล่อยในบ่อใหม่ทั้ง 6 บ่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2508 ต่อจากนั้นทรงให้กรมประมงจัดส่งเจ้าหน้าที่วิชาการตรวจสอบการเจริญเติบโตเป็นประจำทุกเดือน
โดยที่ปลานิลเป็นปลากินพืช เลี้ยงง่าย มีรสดี ออกลูกดก เจริญเติบโตเร็ว ในเวลา 1 ปี จะมีน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมและมีความยาวประมาณ 1 ฟุต จึงได้มีพระราชประสงค์ที่จะให้ปลานี้แพร่ขยายพันธุ์ อัจะเป็นประโยชน์แก่พสกนิกรของพระองค์ต่อไป
ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ซึ่งนับเวลาเกือบครบ 1 ปี ที่มกุฏราชกุมารแห่งญี่ปุ่นได้จัดส่งพันธุ์ปลามาทูลเกล้าฯ ถวายและทรงเลี้ยงไว้ในสวนจิตรลดา จึงทรงพระราชทานชื่อปลาชนิดนี้ว่า"ปลานิล" และได้พระราชทานปลานิลขนาดยาว 3-5 เซนติเมตร จำนวน 10,000 ตัว ให้แก่กรมประมงนำไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ที่แผนกทดลองและเพาะเลี้ยงในบริเวณเกษตรกลางบางเขน และที่สถานีประมงต่างๆทั่วราชอาณาจักรอีกจำนวน 15 แห่งเพื่อดำเนินการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อปลานิลนี้แพร่ขยายพันธุ์ออกมาได้มากเพียงพอแล้ว ก็ได้แจกจ่ายให้ราษฎรนำไปเพาะเลี้ยงตามความต้องการต่อไป
ความเป็นมา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2508 พระจักรพรรดิอากิฮิโต เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฏราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นทรงจัดส่งปลานิลจำนวน 50 ตัวความยาวเฉลี่ย 9 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 14 กรัม มาทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ระยะแรกได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ปล่อยลงในบ่อดิน เนื้อที่ประมาณ 10 ตารางเมตร บริเวณสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อเลี้ยงมาได้ 5 เดือนเศษ ปรากฏว่ามีลูกปลาเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สวนหลวงขุดบ่อขึ้นใหม่อีก 6 บ่อมีเนื้อที่เฉลี่ยบ่อละประมาณ 70 ตารางเมตร ซึ่งในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงย้ายปลาด้วยพระองค์เอง โดยย้ายจากบ่อเดิมไปปล่อยในบ่อใหม่ทั้ง 6 บ่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2508 ต่อจากนั้นทรงให้กรมประมงจัดส่งเจ้าหน้าที่วิชาการตรวจสอบการเจริญเติบโตเป็นประจำทุกเดือน
โดยที่ปลานิลเป็นปลากินพืช เลี้ยงง่าย มีรสดี ออกลูกดก เจริญเติบโตเร็ว ในเวลา 1 ปี จะมีน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมและมีความยาวประมาณ 1 ฟุต จึงได้มีพระราชประสงค์ที่จะให้ปลานี้แพร่ขยายพันธุ์ อัจะเป็นประโยชน์แก่พสกนิกรของพระองค์ต่อไป
ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ซึ่งนับเวลาเกือบครบ 1 ปี ที่มกุฏราชกุมารแห่งญี่ปุ่นได้จัดส่งพันธุ์ปลามาทูลเกล้าฯ ถวายและทรงเลี้ยงไว้ในสวนจิตรลดา จึงทรงพระราชทานชื่อปลาชนิดนี้ว่า"ปลานิล" และได้พระราชทานปลานิลขนาดยาว 3-5 เซนติเมตร จำนวน 10,000 ตัว ให้แก่กรมประมงนำไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ที่แผนกทดลองและเพาะเลี้ยงในบริเวณเกษตรกลางบางเขน และที่สถานีประมงต่างๆทั่วราชอาณาจักรอีกจำนวน 15 แห่งเพื่อดำเนินการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อปลานิลนี้แพร่ขยายพันธุ์ออกมาได้มากเพียงพอแล้ว ก็ได้แจกจ่ายให้ราษฎรนำไปเพาะเลี้ยงตามความต้องการต่อไป
Sunday, September 18, 2011
การป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมและฝนแล้ง
ขุดสระให้ใหญ่เอาดินที่ได้จากการขุดสระมาถมโคกให้สูง ต่อไปเวลาฝนแล้งจะได้ใช้น้ำในสระ มีปลาไว้บริโภค เมื่อเวลาน้ำท่วมเราสามารถขนของมาเก็บไว้บนโคกได้ แม้กระทั่งรถยนต์ก็จอดบนโคกได้ เตรียมตัวให้พร้อม ต่อไปนี้จะมีปัญหาเดิมแบบนี้เกิดขึ้นทุกปี ถ้าไม่เตรียมตัวดีๆ จะเข้าตำราว่า หน้าฝนต้องขนคนหนีน้ำ พอหน้าแล้งต้องขนน้ำไปแจกคน
ป้ายกำกับ:
การป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมและฝนแล้ง
Sunday, September 4, 2011
กระเพรา
กะเพรามี 2 ชนิดคือกระเพราขาวและกระเพราแดง มีกลิ่นฉุนใช้ปรุงอาหารดับกลิ่นคาว ใส่ในแกงป่า แกงเผ็ด ผัดกระเพรา มีสารเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก มีสรรพคุณคลายท้องเฟ้อ จุกเสียด อึดอัด ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด มีการวิจัยกันว่ากินกระเพราทุกวันช่วยต้านมะเร็ง
Thursday, September 1, 2011
น้อยหน่าผลไม้ที่ปลูกง่ายทนแล้ง
น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่ปลูกง่ายและทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี น้อยหน่าที่เราได้กินบางทีได้จากการโยนเมล็ดทิ้งไว้ที่ปลายนา ไม่เคยรดน้ำเลยเผลอๆ 2-3 ปีเดินไปดูนาอ้าว น้อยหน่าสุกพร้อมกินได้ซะแล้ว เราก็เลยตั้งแถวหยอดเมล็ดไว้ทั่วสวนให้เป็นระเบียบ จะได้กินง่ายๆ เหตุที่เราใช้เมล็ดปลูกเพราะเราพยายามรักษาธรรมชาติของต้นไม้ ปลูกด้วยเมล็ดประหยัดสุด หากเราเสียเงินซื้อกิ่งพันธุ์มันแพงมาก กิ่งละ 300-400 บาทต่อ 1 ต้น หากเราต้องการความยั่งยืนปลูกด้วยเมล็ดจะดีที่สุด
กุยช่ายดอง(ผักแป้นดอง)
สวนเราปลูกผักกุยช่ายไว้มาก สามารถขายได้เดือนละสองสามพันเชียวนะ ผักกุยช่ายนี้ภาคอีสานเรียกว่าผักแป้น วิธีรับประทานผักแป้นมีหลายวิธี เช่น ต้ม ทอด ผัด ทำขนมทอดกรอบ กินกับผัดไทย สำหรับวันนี้ผมขอเสนอวิธีทำผักแป้นดอง เริ่มต้น เก็บผักแป้นมาล้างให้สะอาด ขยำในน้ำด้วยมือจนนิ่มแล้วนำมาแช่ในน้ำซาวข้าวใส่เกลือเล็กน้อยผึ่งแดดไว้ 1 วันจะออกรสเปรี้ยวเล็กน้อย หากเก็บไว้นาน 2-3 วันจะเปรี้ยวมากขึ้น แล้วแต่ความชอบใส่โหลเก็บไว้ได้นานหลายวัน นิยมรับประทานกับน้ำพริก หรือปลาร้าที่เรียกว่าป่นอร่อยสุดๆ
วิธีทดสอบเห็ดมีพิษภูมิปัญญาชาวบ้าน
การทดสอบเห็ดมีพิษภูมิปัญญาชาวบ้นทำได้ง่ายๆไม่ต้องใช้ห้องแล็บจ้ะ ทำได้โดยเมื่อต้มแกงเห็ด ให้นำข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้าที่นึ่งแล้ว ใส่ลงในหม้อแล้วปรุงอาหารตามปกติ ถ้าเมล็ดข้าวเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ต้องทิ้งแกงทั้งหม้อทันที ห้ามกินเด็ดขาด เพราะมีพิษ
หน่อไม้ดอง การถนอมอาหารภูมิปัญญาชาวบ้าน
หน้าฝนมีหน่อไม้มากกินไม่ทัน เราก็เลยทำหน่อไม้ดองเก็บไว้กินได้นานๆ การทำหน่อไม้ดองก็หั่นหน่อไม้แล้วแช่ในน้ำเกลือ ผึ่งแดดไว้แล้วใส่ไหปิดปาก ใครอยากรู้เคล็ดลับต้องมาถามคุณยายเองนะจ๊ะ
Thursday, July 21, 2011
ชาวอิสานกินอะไรในหน้าฝน
กินเห็ดจ้ะ ในหน้าฝนเห็ดต่างๆพากันงอกอย่างดี ส่วนใหญ่ชาวอิสานเลยกินเห็ดเป็นหลัก ถามว่าเห็ดราคากิโลละเท่าไร ตอบว่า 100-300 บาทแล้วแต่ชนิดของเห็ด แพงกว่าหมูนะจ๊ะ ในภาพที่เห็นมีเห็ดโคน(เห็ดปลวก) เห็ดมันปู(สีเหลืองๆนั่นแหละ)เห็ดโคน กก.ละ 300 บาทหาซื้อได้ตามข้างทางแต่หายากเพราะมีไม่พอขาย
ป้ายกำกับ:
คนอิสานกินอะไรในหน้าฝน,
เห็ดโคน,
เห็ดปลวก,
เห็ดมันปู
ฤดูฝนมาถึงแล้ว
ในฤดูฝนอะไรๆก็งอกงามดี เราช่วยกันปลูกต้นไม้ใหม่ๆหลายต้น มะยงชิด มะไฟ มะนาว ส้มโอ พันธ์ไม้พวกนี้เราไปหามาจากนครนายกเชียวนะ ส่วนผลไม้ที่ปลูกเองด้วยเมล็ดโดยใช้เสียมสักแล้วโรยไปทั่วสวนคือน้อยหน่า น้อยหน่าพวกนี้เจริญเร็วมาก เรากินแล้วทิ้งเมล็ดไปเรื่อยๆ พอปีสองปีถัดมาอ้าว ได้ผลออกผลเต็มไปหมด ปีนี้เลยจัดระเบียบโรยไปตามแนวรั้วหวังว่าน่าจะได้ผลดี
Tuesday, July 19, 2011
แมลงเม่ากินได้ อร่อยมาก
หน่อไม้ อาหารอร่อย
ในหน้าฝนหน่อไม้เจริญงอกงาม อาหารมื้อสำคัญมักไม่ขาดหน่อไม้ หน่อไม้ที่รสชาติอร่อยมากๆคือหน่อไม้ไผ่บงหวาน ต้มก็ได้แกงก็ดี
Monday, May 30, 2011
มะม่วงมหาชนก
มะม่วงมหาชนก จากสวนเมื่อสุก หอม หวาย อร่อยมาก มะม่วงนี้ซื้อต้นพันธ์ุจากร้านที่มหาวิทยาลัยเกษตร บางเขน
Monday, May 16, 2011
แผนผังเกษตรประณีต 1 ไร่
ความคิดของปราชญ์เกษตรพ่อผาย สร้อยสระกลาง แห่งจังหวัดบุรีรัมย์ยอดเยี่ยมมาก ผู้เริ่มต้นสามารถปฎิบัติได้จริงสำหรับคนที่มีที่ทำกินน้อยเพียง1ไร่ หากทำตามแนวคิดนี้ก็สามารถดำรงอยู่มีกินมีใช้ได้ครับ
ป้ายกำกับ:
เกษตรประณีต 1ไร่,
ปราชญ์เกษตร,
แปลนเกษตรประณีต,
ผาย สร้อยสระกลาง
Saturday, April 2, 2011
Tuesday, March 15, 2011
ผลผลิตของสวนเรา
ในแต่ละปีผลผลิตจากสวนเราจัดว่าพอเพียงสำหรับการบริโภค บางช่วงพอแบ่งขายได้บ้างช่วยค่าน้ำ ค่าไฟได้ เราคงต้องพัฒนาเรื่องไม้ผลต่อไปให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัญหาอีกอย่างคือปัญหาปลาแน่นสระทำให้ปลาตัวไม่โต กำลังคุยกันว่าต้องจับขึ้นมาทำปลาร้าบ้างหากใครสนใจปลาร้าคุณภาพดีคุยกันได้นะครับ ในภาพคือปูนา,กุ้งแห้ง,เห็ดกระด้างแห้ง,ดอกกระเจียว,ปลาดุกย่างตากแห้ง
Saturday, February 19, 2011
เลี้ยงกระบือช่วยกินหญ้าในสวน
เลี้ยงกระบือช่วยกำจัดหญ้าไม่ให้รกสวน ได้ปุ๋ยคอกด้วย โดยปกติกระบือจะให้ลูกปีละตัวเป็นการเพิ่มมูลค่าอย่างมากปัจจุบันกระบืออายุ 3 ปีราคาประมาณ 15,000 บาท
Tuesday, February 1, 2011
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน สวนของเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน บ่อเล็กๆในนาข้าวเมื่อถึงเวลาเกี่ยวข้าวน้ำจะแห้ง ปลาจะมารวมกันในบ่อนี้ อันนี้เป็น ATM ปลาของชาวเกษตรผสมผสานอย่างเรา
Thursday, January 27, 2011
งานเกษตรแฟร์ 2554 เริ่ม28 ม.ค-5 กพ 2554
งานเกษตรแฟร์จัดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์
บางเขนในงานนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายเลยนะไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ไม้ อาหารอร่อยๆ ความรู้ทางวิชาการเกษตร ผมเคยซื้อพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมต้นเตี้ยมาปลูก เดี๋ยวนี้ได้ผลกินแล้วที่เห็นในภาพนี้แหละครับ
บางเขนในงานนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายเลยนะไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ไม้ อาหารอร่อยๆ ความรู้ทางวิชาการเกษตร ผมเคยซื้อพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมต้นเตี้ยมาปลูก เดี๋ยวนี้ได้ผลกินแล้วที่เห็นในภาพนี้แหละครับ
Monday, January 10, 2011
นอนเต๊นท์ในสวนหลับสบายดี
Subscribe to:
Posts (Atom)