ทำเกษตรผสมผสานตาม​แนว​พระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อบรรลุเศรษฐกิจพอเพียง

ก่อนจะมาเป็นสวนนี้แต่เดิมถูกทิ้งไว้หลายปีเพราะเจ้าของที่ดินเดิมย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น เราได้ซื้อที่ดินนี้มาเป็นที่ดอน ป่ารก และต้นซาด เดินเข้าไปมีแต่พงหนามเล็บแมวและเถาวัลย์...ตาบุญเลี่ยมกับยายมะลิ...คนแก่อายุ 60ปี ช่วยกันถางด้วย มีดโต้ จอบ เสียม ไม่จ้างรถแทรกเตอร์เลย ด้วยเหตุผลว่าเสียดายไม้ ถางป่าด้วยความหวัง ถางป่าด้วยความสุข ถางป่าไปร้องเพลงไป พอมีที่ว่างก็ค่อยๆปลูกพืชผักที่กินได้ เข่นแตงโม ข้าวโพด ส่วนต้นไม้ใหญ่รักษาไว้ให้คงสภาพป่าเหมือนเดิม ถางป่าเป็นเวลา 2 ปี แล้วจึงน้อมนำพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ มาปฏิบัติจนกลายเป็นสวนเกษตรผสมผสาน ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชสวนครัว ไม้ผล เลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันได้รับการคัดเลือกเป็น"ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์ เฉลิมพระเกียรติ"หมู่8 ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม

Thursday, December 29, 2011

ของขวัญปีใหม่ ขอให้มีความสุข สุขภาพดี มีทรัพย์อุดม

สวัสดีปีใหม่ ท่านผู้อ่านที่รัก เรามีของขวัญมาฝาก เป็นมงคลชีวิต

  1. ไม่คบคนพาล ข้อ1-18 เริ่มสร้างชีวิต
  2. คบบัณฑิต
  3. บูชาคนควรบูชา
  4. อยู่ในปฏิรูปเทศ
  5. มีบุญวาสนา
  6. ตั้งตัวถูกทาง
  7. คงแก่เรียน
  8. มีศิลปะ
  9. มีวินัยดี
  10. ใช้วาจาสุภาษิต
  11. เลี้ยงดูบิดามารดา
  12. เลี้ยงดูบุตร
  13. เลี้ยงดูภรรยา
  14. ทำงานไม่ให้คั่งค้าง
  15. บำเพ็ญทาน
  16. ประพฤติธรรม
  17. สงเคราะห์ญาติ
  18. ทำงานไม่มีโทษ
  19. งดเว้นบาปกรรม ข้อ19-30 ปรุงจิตโดยตรง
  20. สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
  21. ไม่ประมาท
  22. มีสัมมาคารวะ
  23. มีความถ่อมตัว
  24. มีความสันโดษ
  25. มีความกตัญญู
  26. ฟังธรรมตามการอันควร
  27. อดทน
  28. ว่าง่ายสอนง่าย
  29. พบปะสมณะ
  30. สนทนาธรรม
  31. บำเพ็ญตบะ      ข้อ31-38 มุ่งตรงนิพพาน
  32. ประพฤติพรหมจรรย์
  33. เห็นอริยสัจ
  34. ทำให้แจ้งนิพพาน
  35. จิตไม่หวั่นไหว
  36. จิตไม่โลภ
  37. จิตไม่กำหนัด
  38. จิตหลุดพ้น(เกษม)      

    Tuesday, December 6, 2011

    การเลี้ยงปลานิล 4(การปล่อยปลาลงเลี้ยง)

    การปล่อยปลานิลลงเลี้ยง
       ก.จำนวนปลาที่ปล่อย สำหรับบ่อขนาดเนื้อที่ 1 งาน(400ตารางเมตร) ควรใช้พ่อแม่พันธุ์ปลานิลเพียง 50 คู่ ถ้าเป็นลูกปลาขนาดเล็กก็ควรปล่อยเพียง 400 ตัว หรือ 1 ตัวต่อ 1 ตารางเมตร
       ข.เวลาปล่อยปลา เวลาที่เหมาะควรเป็นเช้าหรือเย็น เพราะอุณหภูมิของน้ำไม่ร้อนเกินไป ก่อนปล่อยปลาควรเอาน้ำในบ่อใส่ลงไปในภาชนะที่บรรจุปลาแล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาทีเพื่อให้ปลาคุ้นกับน้ำใหม่เสียก่อนแล้วจึงค่อยๆตะแคงภาชนะ ปล่อยให้ปลาว่ายออกไปอย่างช้าๆ
     การเจริญเติบโต ปลานิลโตเร็ว เลี้ยง 1 ปี จะมีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม(ครึ่งกิโลกรัม) หากมีปลาในบ่อมากควรจับไปปล่อยในบ่ออื่นบ้าง ถ้าปลาแน่นบ่อจะไม่โตและลดอัตราการแพร่พันธุ์อีกด้วย

    การเลี้ยงปลานิล 3

    การเตรียมบ่อและวิธีเลี้ยง 
       1.บ่อ ควรเป็นบ่อดิน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดตั้งแต่ 400 ตารางเมตรขึ้นไป ระดับน้ำ ควรลึกประมาณ 1 เมตรตลอดปี เพื่อให้ปลาเติบโตและเพาะพันธุ์พร้อมกันไปด้วย
       2.การเตรียมบ่อ ก.บ่อใหม่ ดินมักมีคุณภาพเป็นกรด ควรใช้ปูนขาวโรยให้ทั่วบ่อในอัตรา 1 กก.ต่อเนื้อที่ 10 ตารางเมตร
                                   ข.บ่อเก่า ควรกำจัดวัชพืชออกให้หมด เช่นผักตบชวา จอก แหน หญ้าต่างๆ เพราะวัชชพืชเหล่านี้จะปกคลุมผิวน้ำเป็นอุปสรรคต่อการหมุนเวียนของอากาศ และเป็นที่อยู่อาศัยของศัตรูที่เป็นอันตรายต่อปลา
                                   ค.การใส่ปุ๋ย ใช้มูลวัว มูลควาย มูลหมู มูลเป็ด มูลไก่ ตากแห้งเสียก่อนจึงใส่ ระยะแรกควรใส่ 250-300 กก.ต่อไร่ ในระยะหลังๆควรใส่ครึ่งหนึ่งของระยะแรก การใส่ควรโรยทั่วๆบ่อไม่ควรโยนลงในที่เดียว หากเป็นปุ๋ยพืชสดควรเทสุมกองไว้ 1-2 แห่งตามมุมบ่อ และใช้ไม้ปักล้อมไว้ไม่ให้กระจาย บ่อที่มีสีเขียวแสดงว่ามีพืชเล็กๆอยู่มาก หากบ่อเป็นสีคล้ำมักมีอาหารพวกไรน้ำมาก พวกพืชและไรน้ำนับว่าเป็นอาหารธรรมชาติมีประโยชน์ต่อปลาเป็นอย่างดี

    การเลี้ยงปลานิล 2

    รูปร่างลักษณะและนิสัย
      ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูล Cichlidae มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทวีปอาฟริกา พบทั่วไปตามหนองบึงและทะเลสาบในประเทศ ซูดาน อูกานดา แทนแกนยิกา ปลานิลมีรูปร่างคล้ายปลาหมอเทศมีนิสัยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงตามแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง และทะเลสาบ เป็นปลาที่อยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีความอดทน และสามารถปรับปรุงตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย เหมาะสมที่จะนำมาเพาะเลี้ยงในบ่อได้เป็นอย่างดี
    การแพร่ขยายพันธุ์
       เมื่อปลามีอายุประมาณ 4 เดือน จะเริ่มสืบพันธุ์โดยตัวผู้สร้างรังบริเวณชานบ่อ ระดับน้ำลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร ตัวผู้จะใช้ปากขุดดินให้เป็นแอ่ง เมื่อผสมพันธุ์แล้ว ปลาตัวเมียจะอมไข่ไว้ในปาก 4-5 วันจะฟักเป็นตัว หลังจากเป็นตัวแล้ว 3-4 วันแม่ปลาจะคายลูกออกมา ลูกปลาเริ่มหาอาหารกินเองได้ ลูกปลาจะว่ายเข้าออกในปากแม่ปลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงเลิกหลบเข้าอาศัยในปากแม่ปลา ลูกปลาจะหาอาหารได้อย่างดีเมื่ออายุ 3 สัปดาห์ ในเวลา 1 ปีแม่ปลาจะแพร่พันธุ์ได้ประมาณ 3-4 ครั้ง

    การเลี้ยงปลานิล 1 (ความเป็นมา)

    ปลานิล
    ความเป็นมา  เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2508 พระจักรพรรดิอากิฮิโต เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฏราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นทรงจัดส่งปลานิลจำนวน 50 ตัวความยาวเฉลี่ย 9 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 14 กรัม มาทูลเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ระยะแรกได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ปล่อยลงในบ่อดิน เนื้อที่ประมาณ 10 ตารางเมตร บริเวณสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อเลี้ยงมาได้ 5 เดือนเศษ ปรากฏว่ามีลูกปลาเกิดขึ้นจำนวนมาก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สวนหลวงขุดบ่อขึ้นใหม่อีก 6 บ่อมีเนื้อที่เฉลี่ยบ่อละประมาณ 70 ตารางเมตร ซึ่งในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงย้ายปลาด้วยพระองค์เอง โดยย้ายจากบ่อเดิมไปปล่อยในบ่อใหม่ทั้ง 6 บ่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2508 ต่อจากนั้นทรงให้กรมประมงจัดส่งเจ้าหน้าที่วิชาการตรวจสอบการเจริญเติบโตเป็นประจำทุกเดือน
           โดยที่ปลานิลเป็นปลากินพืช เลี้ยงง่าย มีรสดี ออกลูกดก เจริญเติบโตเร็ว ในเวลา 1 ปี จะมีน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมและมีความยาวประมาณ 1 ฟุต จึงได้มีพระราชประสงค์ที่จะให้ปลานี้แพร่ขยายพันธุ์ อัจะเป็นประโยชน์แก่พสกนิกรของพระองค์ต่อไป
           ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ซึ่งนับเวลาเกือบครบ 1 ปี ที่มกุฏราชกุมารแห่งญี่ปุ่นได้จัดส่งพันธุ์ปลามาทูลเกล้าฯ ถวายและทรงเลี้ยงไว้ในสวนจิตรลดา จึงทรงพระราชทานชื่อปลาชนิดนี้ว่า"ปลานิล" และได้พระราชทานปลานิลขนาดยาว 3-5 เซนติเมตร จำนวน 10,000 ตัว ให้แก่กรมประมงนำไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ที่แผนกทดลองและเพาะเลี้ยงในบริเวณเกษตรกลางบางเขน และที่สถานีประมงต่างๆทั่วราชอาณาจักรอีกจำนวน 15 แห่งเพื่อดำเนินการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อปลานิลนี้แพร่ขยายพันธุ์ออกมาได้มากเพียงพอแล้ว ก็ได้แจกจ่ายให้ราษฎรนำไปเพาะเลี้ยงตามความต้องการต่อไป

    Sunday, September 18, 2011

    การป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมและฝนแล้ง

    ขุดสระให้ใหญ่เอาดินที่ได้จากการขุดสระมาถมโคกให้สูง ต่อไปเวลาฝนแล้งจะได้ใช้น้ำในสระ มีปลาไว้บริโภค เมื่อเวลาน้ำท่วมเราสามารถขนของมาเก็บไว้บนโคกได้ แม้กระทั่งรถยนต์ก็จอดบนโคกได้ เตรียมตัวให้พร้อม ต่อไปนี้จะมีปัญหาเดิมแบบนี้เกิดขึ้นทุกปี ถ้าไม่เตรียมตัวดีๆ จะเข้าตำราว่า หน้าฝนต้องขนคนหนีน้ำ พอหน้าแล้งต้องขนน้ำไปแจกคน

    Sunday, September 4, 2011

    กระเพรา

    กะเพรามี 2 ชนิดคือกระเพราขาวและกระเพราแดง มีกลิ่นฉุนใช้ปรุงอาหารดับกลิ่นคาว ใส่ในแกงป่า แกงเผ็ด ผัดกระเพรา มีสารเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก มีสรรพคุณคลายท้องเฟ้อ จุกเสียด อึดอัด ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด มีการวิจัยกันว่ากินกระเพราทุกวันช่วยต้านมะเร็ง

    Thursday, September 1, 2011

    น้อยหน่าผลไม้ที่ปลูกง่ายทนแล้ง

    น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่ปลูกง่ายและทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี น้อยหน่าที่เราได้กินบางทีได้จากการโยนเมล็ดทิ้งไว้ที่ปลายนา ไม่เคยรดน้ำเลยเผลอๆ 2-3 ปีเดินไปดูนาอ้าว น้อยหน่าสุกพร้อมกินได้ซะแล้ว เราก็เลยตั้งแถวหยอดเมล็ดไว้ทั่วสวนให้เป็นระเบียบ จะได้กินง่ายๆ เหตุที่เราใช้เมล็ดปลูกเพราะเราพยายามรักษาธรรมชาติของต้นไม้ ปลูกด้วยเมล็ดประหยัดสุด หากเราเสียเงินซื้อกิ่งพันธุ์มันแพงมาก กิ่งละ 300-400 บาทต่อ 1 ต้น หากเราต้องการความยั่งยืนปลูกด้วยเมล็ดจะดีที่สุด

    กุยช่ายดอง(ผักแป้นดอง)

    สวนเราปลูกผักกุยช่ายไว้มาก สามารถขายได้เดือนละสองสามพันเชียวนะ ผักกุยช่ายนี้ภาคอีสานเรียกว่าผักแป้น วิธีรับประทานผักแป้นมีหลายวิธี เช่น ต้ม ทอด ผัด ทำขนมทอดกรอบ กินกับผัดไทย สำหรับวันนี้ผมขอเสนอวิธีทำผักแป้นดอง เริ่มต้น เก็บผักแป้นมาล้างให้สะอาด ขยำในน้ำด้วยมือจนนิ่มแล้วนำมาแช่ในน้ำซาวข้าวใส่เกลือเล็กน้อยผึ่งแดดไว้ 1 วันจะออกรสเปรี้ยวเล็กน้อย หากเก็บไว้นาน 2-3 วันจะเปรี้ยวมากขึ้น แล้วแต่ความชอบใส่โหลเก็บไว้ได้นานหลายวัน นิยมรับประทานกับน้ำพริก หรือปลาร้าที่เรียกว่าป่นอร่อยสุดๆ

    วิธีทดสอบเห็ดมีพิษภูมิปัญญาชาวบ้าน

    การทดสอบเห็ดมีพิษภูมิปัญญาชาวบ้นทำได้ง่ายๆไม่ต้องใช้ห้องแล็บจ้ะ ทำได้โดยเมื่อต้มแกงเห็ด ให้นำข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้าที่นึ่งแล้ว ใส่ลงในหม้อแล้วปรุงอาหารตามปกติ ถ้าเมล็ดข้าวเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ต้องทิ้งแกงทั้งหม้อทันที ห้ามกินเด็ดขาด เพราะมีพิษ

    หน่อไม้ดอง การถนอมอาหารภูมิปัญญาชาวบ้าน

    หน้าฝนมีหน่อไม้มากกินไม่ทัน เราก็เลยทำหน่อไม้ดองเก็บไว้กินได้นานๆ การทำหน่อไม้ดองก็หั่นหน่อไม้แล้วแช่ในน้ำเกลือ ผึ่งแดดไว้แล้วใส่ไหปิดปาก ใครอยากรู้เคล็ดลับต้องมาถามคุณยายเองนะจ๊ะ

    Thursday, July 21, 2011

    ชาวอิสานกินอะไรในหน้าฝน

    กินเห็ดจ้ะ ในหน้าฝนเห็ดต่างๆพากันงอกอย่างดี ส่วนใหญ่ชาวอิสานเลยกินเห็ดเป็นหลัก ถามว่าเห็ดราคากิโลละเท่าไร ตอบว่า 100-300 บาทแล้วแต่ชนิดของเห็ด แพงกว่าหมูนะจ๊ะ ในภาพที่เห็นมีเห็ดโคน(เห็ดปลวก) เห็ดมันปู(สีเหลืองๆนั่นแหละ)เห็ดโคน กก.ละ 300 บาทหาซื้อได้ตามข้างทางแต่หายากเพราะมีไม่พอขาย

    ฤดูฝนมาถึงแล้ว

    ในฤดูฝนอะไรๆก็งอกงามดี เราช่วยกันปลูกต้นไม้ใหม่ๆหลายต้น มะยงชิด มะไฟ มะนาว ส้มโอ พันธ์ไม้พวกนี้เราไปหามาจากนครนายกเชียวนะ ส่วนผลไม้ที่ปลูกเองด้วยเมล็ดโดยใช้เสียมสักแล้วโรยไปทั่วสวนคือน้อยหน่า น้อยหน่าพวกนี้เจริญเร็วมาก เรากินแล้วทิ้งเมล็ดไปเรื่อยๆ พอปีสองปีถัดมาอ้าว ได้ผลออกผลเต็มไปหมด ปีนี้เลยจัดระเบียบโรยไปตามแนวรั้วหวังว่าน่าจะได้ผลดี

    อยากกินปลาซิวไปช้อนเอามา

    ปลาซิวเป็นปลาขนาดเล็กแต่รสชาติอร่อยมาก ไม่ว่าจะหมกปลาซิว หรือทอดกรอบอร่อยสุดๆ

    Tuesday, July 19, 2011

    ยอดกระถิน อาหารอุดมด้วยคุณค่า

    ยอดกระถิน ผักอันอุดมด้วยคุณค่า กินสดจิ้มน้ำพริก ปลาร้า กินกับแกงเผ็ดก็ได้

    แมลงเม่ากินได้ อร่อยมาก


    แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ใครๆคงเคยได้ยินประโยคนี้ เวลาหน้าฝนเมื่อค่ำลงเราเปิดไฟ จะมีแมลงเม่าจำนวนมากบินมาเราสามารถจับมาคั่วกินได้แบบอร่อยสุดๆ ถ้าคุณเคยกินกุ้งว่ากุ้งอร่อย หรือเคยกินตั๊กแตนว่าอร่อย ให้ลองกินแมลงเม่า แล้งคุณจะรู้ว่าความอร่อยที่แท้จริงเป็นอย่างไร

    หน่อไม้ อาหารอร่อย

    ในหน้าฝนหน่อไม้เจริญงอกงาม อาหารมื้อสำคัญมักไม่ขาดหน่อไม้ หน่อไม้ที่รสชาติอร่อยมากๆคือหน่อไม้ไผ่บงหวาน ต้มก็ได้แกงก็ดี

    Monday, May 30, 2011

    มะม่วงมหาชนก

    มะม่วงมหาชนก จากสวนเมื่อสุก หอม หวาย อร่อยมาก มะม่วงนี้ซื้อต้นพันธ์ุจากร้านที่มหาวิทยาลัยเกษตร บางเขน

    Monday, May 16, 2011

    แผนผังเกษตรประณีต 1 ไร่

    ความคิดของปราชญ์เกษตรพ่อผาย สร้อยสระกลาง แห่งจังหวัดบุรีรัมย์ยอดเยี่ยมมาก ผู้เริ่มต้นสามารถปฎิบัติได้จริงสำหรับคนที่มีที่ทำกินน้อยเพียง1ไร่ หากทำตามแนวคิดนี้ก็สามารถดำรงอยู่มีกินมีใช้ได้ครับ

    Saturday, April 2, 2011

    การปลูกพืช 7 ชั้นจากไอเดียของสวนผู้ใหญ่วิบูลย์

    ปลูกตั้งแต่ในน้ำจนถึงบนดิน ใต้ดิน

    Tuesday, March 15, 2011

    ผลผลิตของสวนเรา

    ในแต่ละปีผลผลิตจากสวนเราจัดว่าพอเพียงสำหรับการบริโภค บางช่วงพอแบ่งขายได้บ้างช่วยค่าน้ำ ค่าไฟได้ เราคงต้องพัฒนาเรื่องไม้ผลต่อไปให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัญหาอีกอย่างคือปัญหาปลาแน่นสระทำให้ปลาตัวไม่โต กำลังคุยกันว่าต้องจับขึ้นมาทำปลาร้าบ้างหากใครสนใจปลาร้าคุณภาพดีคุยกันได้นะครับ ในภาพคือปูนา,กุ้งแห้ง,เห็ดกระด้างแห้ง,ดอกกระเจียว,ปลาดุกย่างตากแห้ง

    Saturday, February 19, 2011

    เลี้ยงกระบือช่วยกินหญ้าในสวน

    เลี้ยงกระบือช่วยกำจัดหญ้าไม่ให้รกสวน ได้ปุ๋ยคอกด้วย โดยปกติกระบือจะให้ลูกปีละตัวเป็นการเพิ่มมูลค่าอย่างมากปัจจุบันกระบืออายุ 3 ปีราคาประมาณ 15,000 บาท

    Tuesday, February 1, 2011

    ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

    หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน สวนของเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน บ่อเล็กๆในนาข้าวเมื่อถึงเวลาเกี่ยวข้าวน้ำจะแห้ง ปลาจะมารวมกันในบ่อนี้ อันนี้เป็น ATM ปลาของชาวเกษตรผสมผสานอย่างเรา

    Thursday, January 27, 2011

    งานเกษตรแฟร์ 2554 เริ่ม28 ม.ค-5 กพ 2554

    งานเกษตรแฟร์จัดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์
    บางเขนในงานนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายเลยนะไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ไม้ อาหารอร่อยๆ ความรู้ทางวิชาการเกษตร ผมเคยซื้อพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมต้นเตี้ยมาปลูก เดี๋ยวนี้ได้ผลกินแล้วที่เห็นในภาพนี้แหละครับ