ทำเกษตรผสมผสานตาม​แนว​พระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อบรรลุเศรษฐกิจพอเพียง

ก่อนจะมาเป็นสวนนี้แต่เดิมถูกทิ้งไว้หลายปีเพราะเจ้าของที่ดินเดิมย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น เราได้ซื้อที่ดินนี้มาเป็นที่ดอน ป่ารก และต้นซาด เดินเข้าไปมีแต่พงหนามเล็บแมวและเถาวัลย์...ตาบุญเลี่ยมกับยายมะลิ...คนแก่อายุ 60ปี ช่วยกันถางด้วย มีดโต้ จอบ เสียม ไม่จ้างรถแทรกเตอร์เลย ด้วยเหตุผลว่าเสียดายไม้ ถางป่าด้วยความหวัง ถางป่าด้วยความสุข ถางป่าไปร้องเพลงไป พอมีที่ว่างก็ค่อยๆปลูกพืชผักที่กินได้ เข่นแตงโม ข้าวโพด ส่วนต้นไม้ใหญ่รักษาไว้ให้คงสภาพป่าเหมือนเดิม ถางป่าเป็นเวลา 2 ปี แล้วจึงน้อมนำพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ มาปฏิบัติจนกลายเป็นสวนเกษตรผสมผสาน ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชสวนครัว ไม้ผล เลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันได้รับการคัดเลือกเป็น"ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์ เฉลิมพระเกียรติ"หมู่8 ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม

Wednesday, March 3, 2010

ดอกแคแดง

ดอกแคแดงกินอร่อยกว่าดอกแคขาวจ้ะ มีวิตามินซีสูงคนโบราณสอนไว้ว่ากินดอกแคแก้ไข้หัวลม(ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงต้นฤดูหนาว)แกงส้ม ต้มจิ้มน้ำพริกก็ได้จ้ะ

บ่อปลาในนาข้าว


ปีก่อนเราได้ทำบ่อปลาในนาข้าว(ส่างแซง)แล้วได้ผลมีปลามาอาศัยจำนวนมากหลังเกี่ยวข้าวเราได้ปลามาเป็นอาหารและยังได้ทำปลาร้าไว้อีก 1 ตุ่มใหญ่ปีนี้เลยทำเพิ่มอีกบ่อวิธีทำไม่ยุ่งยากใช้รถไถดินให้ลึกเป็นแอ่งปลาจะมารวมกันเมื่อน้ำลดลง

สระน้ำใหม่


เราได้ขุดสระน้ำใหม่อีก 1 ลูก ขุดแล้วนำดินที่ได้ไปถมที่รอสร้างบ้านผลประโยชน์สองต่อเลย เมื่อขุดใหม่ๆยังไม่มีน้ำต้องรอให้มีน้ำฝนตกลงมาเมื่อน้ำเต็มแล้วก็จะมีน้ำตลอด ขุดสระลึก 3 เมตรเมื่อฝนตกจะมีน้ำคงอยู่ประมาณ 2.5 เมตร น้ำระเหยเฉลี่ยลดลงวันละ 1 ซม.หากฝนไม่ตกติดต่อกัน 3 เดือนน้ำจะลดลง 90 ซม.ยังเหลืออีก 1.6 เมตร ปลาอาศัยอยู่ได้สบายๆเพราะฉะนั้นเราจึงมีปลาบริโภคตลอดปี